รีวิวหนัง ฝีนาค Fee Nak เป็นหนังตลกแนวสยองขวัญที่ผสมผสานมุกตลกเข้ากับความลี้ลับชวนขนลุก เล่าเรื่องราวของ เทพ (สุเทพ สีใส) อดีตลูกน้องของเสี่ยชู ที่ถูกตามล่าและยิงจนเสียชีวิตโดยไม่รู้ตัว หลังจากเหตุการณ์นั้น เทพกลับฟื้นคืนชีพและกลายเป็นวิญญาณเฮี้ยนโดยที่เขาเองไม่รู้ว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว
เทพได้เจอกับกลุ่มกะเทยที่นำโดย ลูซี่ (หลุยส์ ชวนชื่น) และ ชอนนี่ (อรชร เชิญยิ้ม) ซึ่งพาร่างของเขากลับไปที่ฮาเร็ม ทั้งหมดเริ่มสัมผัสถึงความผิดปกติ แต่ยังไม่ทันได้ไขความลับ เหตุการณ์ฮาปนหลอนก็เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งฉากขำขันและความน่ากลัวที่ผสมกันจนยากจะคาดเดา ดูหนัง ฝีนาค Fee Nak (2024)
เรื่องย่อ Fee Nak (2024)
ในหมู่บ้านชนบทที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยความลี้ลับ เทพ (รับบทโดย สุเทพ สีใส) อดีตลูกน้องคนสนิทของเสี่ยชู กำลังหลบหนีการตามล่าจาก ฟู (รับบทโดย ดะ ตลก 6 ฉาก) และ ติ๊ก (รับบทโดย ติ๊ก ร็อคข้าวปุ้น) ลูกน้องคนใหม่ของเสี่ยชู หลังจากที่เทพขัดแย้งกับเจ้านายเก่าและรู้เรื่องราวความลับบางอย่างที่ไม่ควรเปิดเผย
เหตุการณ์พลิกผันเมื่อเทพถูกยิงเสียชีวิตกลางป่าชายเลน และในขณะที่เขายังไม่รู้ตัวว่าตนเองได้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน เขาได้พบกับกลุ่มกะเทยนำโดย ลูซี่ (รับบทโดย หลุยส์ ชวนชื่น) และ ชอนนี่ (รับบทโดย อรชร เชิญยิ้ม) ที่พาเขาไปซ่อนตัวในฮาเร็มของพวกเธอเพื่อช่วยฟื้นตัว แต่ด้วยความแปลกประหลาดของเทพ เช่น กล้ามเนื้อเริ่มแข็ง น้ำเหลืองไหลออกจากร่าง และกลิ่นเหม็นที่เริ่มรุนแรงขึ้น กลุ่มลูซี่จึงเริ่มสงสัยว่าเทพอาจไม่ได้เป็นเพียงคนธรรมดา
ระหว่างที่เทพพยายามหาทางแก้ไขสถานการณ์และหนีจากการตามล่า ความเฮี้ยนของเขาเริ่มปรากฏชัดขึ้น ทั้งการเปิดเผยร่างที่เน่าเฟะและการใช้พลังเหนือธรรมชาติอันลึกลับ ทำให้เหตุการณ์ในหมู่บ้านเริ่มบานปลาย ผสมความตลกขบขันและความสยองขวัญอย่างลงตัว
ในขณะเดียวกัน ฟูและติ๊กยังคงตามล่าเทพโดยไม่ลดละ ความวุ่นวายนี้ทำให้ พระในโบสถ์ (รับบทโดย นุ้ย เชิญยิ้ม) และชาวบ้านต่างพยายามหาวิธีคลี่คลายสถานการณ์ และปลดปล่อยหมู่บ้านจากคำสาปที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากวิญญาณของเทพ
“ฝีนาค (Fee-Nak)” เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานความตลกและความลี้ลับเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมพาผู้ชมสนุกไปกับฉากฮาแบบไม่หยุดพัก และเหตุการณ์ที่ชวนให้ลุ้นระทึกจนแทบนั่งไม่ติดเบาะ
รายชื่อนักแสดงในภาพยนตร์
หลุยส์ ชวนชื่น บทบาท: ลูซี่ หัวหน้ากลุ่มกะเทยที่พบร่างเทพและช่วยเหลือพาไปซ่อนตัว
ดะ ตลก 6 ฉาก บทบาท: ฟู ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยชู ผู้ตามล่าเทพอย่างไม่ลดละ
ติ๊ก ร็อคข้าวปุ้น บทบาท: ติ๊ก คู่หูของฟูและหนึ่งในผู้ที่มีส่วนสำคัญในเหตุการณ์ไล่ล่าเทพ
อรชร เชิญยิ้ม บทบาท: ชอนนี่ สมาชิกกลุ่มกะเทยผู้สร้างสีสันและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเทพ
นุ้ย เชิญยิ้ม บทบาท: พระในโบสถ์ ผู้ที่รับรู้ถึงความลี้ลับของเทพและพยายามคลี่คลายสถานการณ์
โย่ง เชิญยิ้มบทบาท: ผู้ใหญ่โย่ง ผู้ใหญ่บ้านที่มีส่วนสำคัญในเรื่องราวของหมู่บ้าน
ตุ๊กกี้ ชิงร้อย บทบาท: แม่ค้าชาวบ้าน ตัวละครสายฮาที่เพิ่มความตลกให้กับเรื่องราว
รีวิวหนัง ฝีนาค Fee Nak (2024) การแสดง โปรดักชัน
สุเทพ สีใส รับบท “เทพ” ได้อย่างยอดเยี่ยม ถ่ายทอดความขำขันผสมความหลอนออกมาได้ลงตัว
หลุยส์ ชวนชื่น ในบท “ลูซี่” โดดเด่นด้วยบุคลิกที่สดใสและมุกตลกที่ยิงตรงเป้า
ดะ ตลก 6 ฉาก และ ติ๊ก ร็อคข้าวปุ้น ในบทตัวร้าย สร้างสีสันด้วยมุกตลกที่เสริมบรรยากาศได้อย่างกลมกลืน
อรชร เชิญยิ้ม รับบท “ชอนนี่” โดดเด่นในฉากสำคัญที่เน้นความน่ารักแบบกวน ๆ
การออกแบบฉาก: แม้จะไม่ได้อลังการมาก แต่ก็สะท้อนบรรยากาศแบบไทย ๆ ได้ดี โดยเฉพาะฉากโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ
ดนตรีประกอบ: ใช้เสียงเพลงไทยดั้งเดิมผสมผสานกับเอฟเฟกต์เสียงหลอน ทำให้ฉากสยองขวัญมีพลังมากขึ้น
เอฟเฟกต์พิเศษ: แม้จะไม่ได้สมจริงเต็มที่ แต่ก็สามารถสร้างความขนลุกและเสียงหัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน
บทวิจารณ์จากผู้ชมเกี่ยวกับภาพยนตร์ ฝีนาค
ความตลกที่ไม่ยั้ง: ผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชมว่า ฝีนาค (Fee-Nak) เต็มไปด้วยมุกตลกที่จัดหนักจัดเต็มตั้งแต่ต้นจนจบ เสียงหัวเราะเกิดขึ้นแทบทุกนาที บางคนถึงขั้นบอกว่า “หัวเราะจนท้องแข็ง” โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดงตลกระดับแนวหน้าที่ช่วยสร้างสีสันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น สุเทพ สีใส, หลุยส์ ชวนชื่น, หรือ อรชร เชิญยิ้ม ที่รับบทได้สมบทบาทและมีเคมีที่เข้ากันจนกลายเป็นความลงตัวของหนังตลกไทยที่แท้จริง
บรรยากาศผีตลกที่ลงตัว: หลายคนประทับใจการผสมผสานความน่ากลัวและความตลกได้อย่างพอดี บรรยากาศในบางช่วงของหนังมีความน่าขนลุกเล็กน้อย แต่ถูกคลายด้วยมุกตลกที่แทรกมาได้อย่างเหมาะสม ทำให้หนังไม่ดูดาร์กหรือจริงจังจนเกินไป
เสน่ห์ของตัวละคร: ตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะ เทพ และกลุ่มกะเทยของ หลุยส์ ชวนชื่น ได้รับคำชมเป็นพิเศษในแง่ของความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้ผู้ชม ด้วยมุกตลกที่ถูกจังหวะและการแสดงที่เข้าถึงบทบาท ทำให้ทุกตัวละครมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ
การดำเนินเรื่องกระชับ: แม้หนังจะไม่ได้มีพล็อตที่ซับซ้อนหรือหักมุมใหญ่โต แต่ผู้ชมหลายคนชื่นชมการเล่าเรื่องที่ตรงไปตรงมา ไม่ยืดเยื้อ เน้นความบันเทิงแบบจัดเต็ม ช่วยให้หนังดูง่ายและเพลิดเพลินตลอด 90 นาที
ข้อควรปรับปรุง: มีผู้ชมบางส่วนที่มองว่า ฝีนาค ยังคงใช้มุกตลกที่เดาได้หรือเคยเห็นในหนังตลกไทยเรื่องอื่นมาก่อน ทำให้บางจังหวะอาจดูซ้ำซากไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าสามารถดึงความสนุกจากผู้ชมได้ดี
สายครอบครัวไม่ควรพลาด: หลายครอบครัวแนะนำว่า ฝีนาค เป็นหนังที่เหมาะสำหรับการรับชมร่วมกัน เพราะไม่มีเนื้อหาที่รุนแรงเกินไป และยังสามารถสร้างเสียงหัวเราะร่วมกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
จุดเด่น จุดด้อย ของ ฝีนาค
มุกตลกหลากหลาย: หนังเต็มไปด้วยมุกตลกที่ยิงได้ตรงจังหวะ
การเล่าเรื่องแบบใหม่: ผสมผสานความตลกและสยองขวัญได้อย่างแปลกใหม่
ทีมดาราตลกคุณภาพ: การแสดงของนักแสดงทุกคนช่วยเพิ่มสีสันให้กับหนัง
จังหวะเล่าเรื่องบางช่วงช้า: อาจทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกเบื่อในช่วงกลางของหนัง
เอฟเฟกต์ยังไม่สมจริง: โดยเฉพาะฉากหลอนที่อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับแฟนหนังสยองขวัญสายจริงจัง
สรุป ฝีนาค (Fee-Nak) (2024)
“ฝีนาค (Fee-Nak)” เป็นภาพยนตร์ผีตลกที่ผสมผสานความฮาและความสยองขวัญอย่างลงตัว โดยเล่าเรื่องราวของ เทพ อดีตลูกน้องที่ถูกตามล่าและเสียชีวิตอย่างปริศนา แต่ด้วยพลังเหนือธรรมชาติ เขากลับกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่ยังไม่รู้ตัวว่าตายแล้ว
การเดินทางของเทพนำพาเขาไปพบกับกลุ่มกะเทยที่ช่วยเหลือเขาโดยไม่รู้ถึงความเฮี้ยนที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น นำไปสู่ความวุ่นวายและเหตุการณ์ชวนหัวในหมู่บ้าน ความพยายามของเทพที่จะหาทางหลบหนีการตามล่าจาก ฟู และ ติ๊ก สร้างเสียงหัวเราะและโมเมนต์ชวนลุ้นระทึกตลอดเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้มุกตลกแบบไทย ๆ ผสมผสานกับบรรยากาศลึกลับ และยังสะท้อนถึงมิตรภาพและความสามัคคีในชุมชนที่พยายามหาทางแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ หนังดำเนินเรื่องอย่างสนุกสนาน มีจังหวะฮาแทบทุกนาที และเติมเต็มด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมจากทีมนักแสดงตลกแถวหน้าของเมืองไทย
“ฝีนาค (Fee-Nak)” จึงเป็นหนังผีตลกส่งท้ายปีที่มอบทั้งความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ เหมาะสำหรับการดูเพื่อคลายเครียดและรับประกันว่าแฟนหนังไทยจะไม่ผิดหวัง
คะแนน: ⭐⭐⭐⭐ (4/5)
ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: ต่าย เชิญยิ้ม และ อานุภาพ อนุวงษ์สังข์
นำแสดงโดย: สุเทพ สีใส, หลุยส์ ชวนชื่น, ดะ ตลก 6 ฉาก, ติ๊ก ร็อคข้าวปุ้น, อรชร เชิญยิ้ม
ความยาว: 110 นาที
กำหนดฉาย: 7 ธันวาคม 2567