รีวิวหนัง G20 (2025)
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |

รีวิวหนัง G20 (2025) ท่ามกลางสมรภูมิหนังแอคชันที่อัดแน่นไปด้วยฉากระเบิดภูเขาเผากระท่อมและตัวละครสุดเท่ที่ต่อสู้กับวิกฤตระดับโลก “G20” (2025) โผล่ขึ้นมาในฐานะภาพยนตร์แอคชันทริลเลอร์ที่หยิบเอาสถานการณ์การเมืองระดับสากลมาผูกเข้ากับเรื่องราวการก่อการร้ายสุดเข้มข้น นำโดยนักแสดงหญิงมากฝีมือ “ไวโอลา เดวิส” ที่สลัดภาพดราม่าหนักมารับบทแอคชันเต็มตัวอีกครั้ง หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่ชูจุดเด่นที่นักแสดงนำรางวัลออสการ์เท่านั้น แต่ยังพยายามสอดแทรกประเด็นร่วมสมัยทั้งเทคโนโลยี ความมั่นคง และบทบาทผู้นำหญิงในเวทีโลก
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความตั้งใจดีและไอเดียน่าสนใจ “G20” กลับต้องเผชิญกับความท้าทายจากบทภาพยนตร์ที่ไม่กลมกล่อม งานกำกับที่ไม่เฉียบขาด และองค์ประกอบที่ยังขาดความทันสมัย จนทำให้ภาพรวมของหนังเรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่คนดูไม่น้อย นี่คือหนึ่งในหนังที่หลายคนอยากรู้ว่า…การประชุมสุดยอดครั้งนี้ จะพาเราขึ้นจุดสูงสุดของความมันส์ หรือดิ่งลงเหวแห่งความน่าเบื่อกันแน่ ดูหนัง G20 (2025)
เรื่องย่อ G20 (2025)
ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลก G20 ที่จัดขึ้นในเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของแอฟริกาใต้ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายวางแผนบุกโจมตีและยึดงานประชุมไว้เป็นตัวประกัน จุดมุ่งหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเรียกร้องข้อแลกเปลี่ยนธรรมดา แต่คือการก่อความวุ่นวายที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลกใบนี้
ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ประธานาธิบดี “เทย์เลอร์ ซัตตัน” (รับบทโดย ไวโอลา เดวิส) ผู้นำหญิงผู้เข้มแข็งของสหรัฐฯ ที่มีอดีตเป็นทหารมากฝีมือ ต้องกลับมารับบทนักรบอีกครั้ง เธอใช้ทั้งไหวพริบ ความเด็ดเดี่ยว และประสบการณ์ทางทหารที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์ผู้นำประเทศ เพื่อต่อสู้ ปกป้องผู้บริสุทธิ์ และหยุดยั้งหายนะระดับโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในภารกิจที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดนี้ เธอไม่เพียงต้องเผชิญหน้ากับศัตรูภายนอก แต่ยังต้องต่อกรกับแรงกดดันทางการเมือง ความไม่ไว้วางใจจากชาติพันธมิตร และความเสี่ยงที่อาจนำพาโลกทั้งใบไปสู่หายนะครั้งใหญ่
นักแสดงนำในภาพยนตร์ G20 (2025)
Viola Davis รับบท ประธานาธิบดีเทย์เลอร์ ซัตตัน
ผู้นำหญิงคนแกร่งแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้มีอดีตเป็นทหารและต้องหวนกลับมาปฏิบัติการด้วยตัวเองอีกครั้งเพื่อหยุดยั้งเหตุการณ์ก่อการร้าย
Antony Starr รับบท หัวหน้าผู้ก่อการร้าย
ตัวร้ายหลักของเรื่อง ผู้วางแผนโจมตีงานประชุม G20 พร้อมเป้าหมายลึกซึ้งที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจโลก
Ramon Rodriguez รับบท ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดี
ผู้ช่วยสำคัญที่คอยให้ข้อมูลและแผนการสนับสนุนภารกิจในสนามรบและการเมือง
Anthony Anderson รับบท รัฐมนตรีกลาโหม
ผู้มากประสบการณ์ ที่ต้องร่วมมือกับประธานาธิบดีซัตตันในการจัดการวิกฤตการณ์ครั้งนี้
Douglas Hodge รับบท ตัวแทนจากกลุ่มผู้นำชาติพันธมิตร
ตัวแทนผู้มีอำนาจที่มีบทบาทต่อทิศทางของแผนการเมืองระหว่างประเทศ
Marsai Martin รับบท ลูกสาวของประธานาธิบดี
ตัวละครที่เป็นแรงผลักดันด้านอารมณ์ให้กับตัวเอก เพิ่มความลึกทางความสัมพันธ์ในเรื่อง
รีวิวหนัง G20 (2025) เมื่อประธานาธิบดีหญิงต้องลุกขึ้นสู้กลางสมรภูมิการเมือง
G20 เป็นภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญที่นำเสนอเรื่องราวของ แดเนียล ซัตตัน (รับบทโดย ไวโอลา เดวิส), ประธานาธิบดีหญิงของสหรัฐอเมริกาและอดีตทหารผ่านศึกจากสงครามอิรัก ซึ่งต้องเผชิญกับเหตุการณ์ก่อการ
ร้ายระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ . เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกยึดการประชุมและจับตัวผู้นำโลกเป็นตัวประกัน ซัตตันต้องใช้ทักษะทางทหารและความเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อ
ปกป้องครอบครัว ประเทศชาติ และผู้นำโลกจากภัยคุกคามครั้งนี้
จุดเด่นของภาพยนตร์
การแสดงของไวโอลา เดวิส: เดวิสสามารถถ่ายทอดบทบาทของประธานาธิบดีหญิงที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการต่อสู้ได้อย่างน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินกับตัวละครและสถานการณ์ที่เธอเผชิญ
ฉากแอ็กชันที่เข้มข้น: ภาพยนตร์มีฉากแอ็กชันที่ตื่นเต้นและน่าติดตาม โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ระหว่างซัตตันและผู้ก่อการร้ายที่ถูกออกแบบมาอย่างดี.
การนำเสนอประเด็นทางการเมือง: แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์แอ็กชัน แต่ G20 ก็แฝงไปด้วยประเด็นทางการเมือง เช่น การใช้เทคโนโลยี Deepfake เพื่อบิดเบือนข้อมูลและสร้างความวุ่นวายทางการเงิน .
พล็อตเรื่องที่ไม่สมจริง: หลายฉากในภาพยนตร์มีความเกินจริงและขาดความสมเหตุสมผล ทำให้บางครั้งผู้ชมอาจรู้สึกไม่เชื่อมโยงกับเรื่องราว
การพัฒนาตัวละครรอง: ตัวละครรองในเรื่องได้รับการพัฒนาไม่มากนัก ทำให้ขาดความลึกซึ้งและไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เท่าที่ควร
การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์
การดำเนินเรื่องของ G20 เลือกใช้โครงสร้างแบบ “เรียบง่ายแต่เร่งเร้า” ด้วยการวางเส้นเรื่องให้กระชับตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเริ่มต้นอย่างรวดเร็วด้วยฉากประชุมสุดยอด G20 ที่กลายเป็นสนามรบ เมื่อเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายโจมตีผู้นำประเทศทั่วโลก ณ เมืองเจ้าภาพในแอฟริกาใต้
เรื่องราวไม่เสียเวลาปูพื้นมากนัก แต่ใช้การกระโดดเข้าสู่สถานการณ์วิกฤตทันที ทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงเดิมพันอันสูงลิ่วและอันตรายที่ประธานาธิบดีซัตตันต้องเผชิญ เธอจึงต้องดึงเอาทักษะยุทธวิธีในอดีตกลับมาใช้อีกครั้ง ทั้งด้านการทหาร การวิเคราะห์สถานการณ์ และการเมืองระดับสูง
การเล่าเรื่องพยายามไล่ระดับความตึงเครียดเป็นฉาก ๆ ด้วยภารกิจต่อเนื่องแบบ mission-based ที่ประธานาธิบดีต้องฝ่าด่านต่าง ๆ ทั้งในสนามรบจริงและการเมืองเบื้องหลัง สลับกับฉากวางแผน กลยุทธ์ และความขัดแย้งทางอำนาจในระหว่างผู้นำโลก
แต่ถึงแม้จะพยายามใส่ความลุ้นระทึกและฉากแอ็กชันเข้าอย่างต่อเนื่อง การดำเนินเรื่องกลับไม่สามารถรักษาความน่าติดตามได้ตลอดเวลา เพราะขาดจังหวะที่เฉียบคม และหลายฉากสำคัญกลับไม่สามารถดึงอารมณ์ร่วมจากผู้ชมได้มากพอ
โดยรวมแล้ว G20 พยายามผสานความเป็นหนังแอ็กชัน-การเมืองแบบเต็มพิกัด แต่ยังขาดความลื่นไหลและความสดใหม่ในการดำเนินเรื่อง ถึงจะมีบางฉากที่น่าจดจำและพลังของไวโอลา เดวิสช่วยดึงเรื่องไว้ได้บ้าง แต่ในภาพรวมยังไม่สามารถยกระดับเรื่องราวให้พ้นความจำเจได้มากนัก
สรุปหนัง G20 (2025)
G20 (2025) เป็นภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ที่มีพล็อตน่าสนใจ ด้วยการจับเอาผู้นำหญิงของสหรัฐฯ อย่าง “ประธานาธิบดีซัตตัน” มาวางไว้ท่ามกลางวิกฤตการณ์ก่อการร้ายระดับโลกในระหว่างการประชุม G20 สิ่งที่ทำให้หนังโดดเด่นที่สุดคือการแสดงของ ไวโอลา เดวิส ที่แบกทั้งเรื่องไว้ด้วยฝีมือระดับออสการ์ ทั้งฉากบู๊และดราม่าเธอเอาอยู่ทุกมุม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พล็อตจะดูเข้มข้นและทันสมัย แต่ปัญหาหลักของหนังกลับอยู่ที่บทและการกำกับที่ยังขาดพลัง ไร้ความแปลกใหม่ และยังเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเก่า ๆ จากหนังยุค 90s ที่เคยรุ่งเรือง การเดินเรื่องไม่ลื่นไหล จังหวะเล่าเรื่องขาดแรงกระตุ้น ความตื่นเต้นถูกแทนที่ด้วยความเชยอย่างน่าเสียดาย
การแคสติ้งนักแสดงสมทบที่ยังไม่แข็งพอ รวมถึงการออกแบบฉากและแอ็กชันที่ไม่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจได้เต็มที่ ทำให้หนังแม้จะดูได้เพลิน ๆ แต่ก็ไม่สามารถทิ้งความประทับใจหรือสร้างจุดขายใหม่ให้กับแนวแอ็กชันการเมืองได้
สรุปคือ G20 มีไอเดียที่ดี มีดารานำที่ยอดเยี่ยม แต่ติดขัดที่งานสร้างและบทหนังที่ไม่ถึงระดับที่ควรจะเป็น เป็นหนังแอ็กชันที่ดูได้แบบไม่ต้องคาดหวังมาก เหมาะสำหรับคนที่อยากเห็นไวโอลา เดวิส ลุยเดี่ยวในบทบาทผู้นำโลกมากกว่าจะมองหาความแปลกใหม่ในวงการภาพยนตร์