รีวิวหนัง Captain America Civil War (2016)
รีวิวหนัง Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่ เมื่อฮีโร่รุ่นใหม่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ Captain America: Brave New World” หรือในชื่อไทยว่า “กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 35 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ที่นำเสนอการเปลี่ยนผ่านบทบาทของกัปตันอเมริกาจากสตีฟ โรเจอร์ส สู่
แซม วิลสัน ภาพยนตร์นี้กำกับโดย Julius Onah และนำแสดงโดย Anthony Mackie ในบทแซม วิลสัน ร่วมด้วย Harrison Ford ในบทประธานาธิบดี Thaddeus Ross แซม วิลสัน ได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันอเมริกาคนใหม่ ในขณะเดียวกัน Thaddeus “Thunderbolt” Ross ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อสหรัฐฯ ค้นพบแหล่งแร่ adamantium ใน
มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นแร่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า vibranium การค้นพบนี้นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ แซมต้องเผชิญกับความท้าทายในการพิสูจน์ตนเองในบทบาทกัปตันอเมริกา พร้อมกับการเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่และการเมืองที่ซับซ้อน ดูหนัง Captain America Civil War (2016)
เรื่องย่อ Captain America: Brave New World
หลังจากเหตุการณ์ใน The Falcon and the Winter Soldier (2021) แซม วิลสัน (Sam Wilson) หรือ ฟอลคอน (Falcon) ได้รับโล่จากสตีฟ โรเจอร์ส และกลายเป็นกัปตันอเมริกาคนใหม่ แต่ภารกิจของเขาไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เมื่อโลกต้องเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Thaddeus “Thunderbolt” Ross (รับบทโดย Harrison Ford) ได้รับตำแหน่งเป็น ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา และต้องการให้กัปตันอเมริกาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ขณะเดียวกัน Samuel Sterns หรือ The Leader (Tim Blake Nelson) ก็กลับมาอีกครั้งในฐานะตัวร้ายหลักของเรื่อง พร้อมแผนการอันแยบยลในการใช้พลังอภิมนุษย์เพื่อควบคุมโลก
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น กัปตันอเมริกาคนใหม่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อการเมืองและศีลธรรมต้องปะทะกัน ในขณะเดียวกัน Red Hulk ก็ปรากฏตัวขึ้นและทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลาย แซม วิลสันจะสามารถก้าวข้ามบททดสอบนี้และพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่ง Captain America หรือไม่?
การดำเนินเรื่อง จังหวะที่ยังไม่ลงตัว
หนึ่งในปัญหาหลักของ Captain America: Brave New World คือจังหวะของเรื่องที่ ค่อนข้างเนือยช่วงแรก โดยหนังพยายามปูเรื่องในเชิงการเมืองและความขัดแย้งภายในสหรัฐอเมริกา แต่ทำออกมาได้ไม่น่าติดตามมากพอ
สิ่งที่หนังพยายามจะเล่า:
ความขัดแย้งระหว่าง กัปตันอเมริกา และรัฐบาล
การกลับมาของ The Leader และแผนการของเขา
บทบาทของ Red Hulk และผลกระทบที่มีต่อจักรวาล MCU
แม้ว่าในช่วงต้นเรื่องจะดำเนินไปแบบเชื่องช้าและไม่ได้มีฉากแอ็กชันที่หวือหวามากนัก แต่ องก์ที่สามของหนังกลับทำออกมาได้ดีและช่วยกอบกู้สถานการณ์ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์ที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้ที่มันส์สะใจ
การแสดง จุดแข็งของหนัง รีวิวหนัง Captain America Civil War
แม้ตัวหนังอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบมากนัก แต่การแสดงของนักแสดงนำถือเป็น จุดแข็ง ที่ช่วยพยุงหนังให้ดูสนุกขึ้น
Anthony Mackie (แซม วิลสัน / Captain America) – ทำได้ดีแต่ยังไม่สุด
แซม วิลสัน ได้รับบทเป็นกัปตันอเมริกาแบบเต็มตัวในภาคนี้ และแม้ว่าเขาจะทำหน้าที่ได้ดี แต่การแบกหนังทั้งเรื่องอาจยังไม่แข็งแกร่งพอเทียบกับสตีฟ โรเจอร์สในภาคก่อนๆ
Harrison Ford (Thaddeus Ross) – ตัวละครที่มีพลังดึงดูด
แม้จะอายุเยอะแล้ว แต่ Harrison Ford ก็ยังคงมีพลังดึงดูดบนจอและทำให้ตัวละครของเขามีมิติ และการที่เขากลายเป็น Red Hulk ในเรื่องถือเป็นจุดพีคที่น่าสนใจ
Tim Blake Nelson (The Leader) – ตัวร้ายที่ยังขาดพลัง
แม้ว่า The Leader จะเป็นตัวร้ายที่น่าสนใจบนกระดาษ แต่การนำเสนอของเขาในหนังยังดูไม่เข้มข้นมากพอที่จะทำให้รู้สึกว่าเป็นภัยคุกคามระดับโลก
ฉากแอ็กชัน มีทั้งดีและไม่ดี
ฉากแอ็กชันเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียในเรื่องนี้
สิ่งที่ทำได้ดี:
ฉากต่อสู้บนอากาศ – กัปตันอเมริกาใช้ปีกและโดรนอย่างชาญฉลาด
ฉากต่อสู้ช่วงท้าย – การเผชิญหน้าระหว่างกัปตันอเมริกาและ Red Hulk ทำออกมาได้เดือดสุดๆ
สิ่งที่ยังขาด:
ฉากต่อสู้บนพื้นดิน – คิวบู๊แบบประชิดตัวยังดูธรรมดา ไม่มีเอกลักษณ์
การตัดต่อบางฉากดูเร่งรีบ ทำให้บางช่วงของฉากแอ็กชันไม่ลื่นไหล
ประเด็นที่น่าสนใจ
นอกจากฉากแอ็กชันแล้ว Captain America: Brave New World ยังนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ เช่น
บทบาทของกัปตันอเมริกาในโลกสมัยใหม่
เมื่อไม่มี ซูเปอร์โซลเยอร์ เซรั่ม แซม วิลสันต้องพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับโล่นี้หรือไม่
การเมืองในจักรวาล MCU
หนังพยายามสะท้อนให้เห็นถึงการเมืองที่ซับซ้อนและความขัดแย้งในสหรัฐอเมริกา
การมาของ Adamantium และอนาคตของ X-Men
มีการกล่าวถึงแร่ Adamantium ซึ่งอาจเป็นการปูทางให้ X-Men ปรากฏตัวในอนาคต
ข้อดี-ข้อเสียของหนัง Captain America Civil War
การแสดงของนักแสดงนำโดยเฉพาะ Harrison Ford
ฉากแอ็กชันช่วงท้ายเดือดมาก โดยเฉพาะการสู้กับ Red Hulk
ปูทางสู่จักรวาล MCU ในอนาคต โดยเฉพาะ X-Men และ Adamantium
จังหวะของหนังในช่วงแรกค่อนข้างเนือย
บทตัวร้ายยังไม่แข็งแรงมากพอ
ขาดจุดพีคและฉากหักมุมที่น่าตื่นเต้น
สรุป รีวิวหนัง Captain America Civil War
Captain America: Brave New World เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ และเป็นอีกก้าวสำคัญของ แซม วิลสัน ในการพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเหมาะสมกับโล่ Captain America หรือไม่ แม้ว่าหนังจะยังมีจุดบกพร่องในแง่ของบทและจังหวะการดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยสมดุล แต่โดยรวมแล้ว มันเป็นหนังแอ็กชันที่สนุกในระดับหนึ่ง
เหมาะสำหรับแฟน MCU ที่อยากติดตามเส้นทางของ กัปตันอเมริกาคนใหม่ แต่หากหวังว่ามันจะเป็นหนังที่โดดเด่นและทรงพลังเท่ากับ The Winter Soldier อาจต้องผิดหวังเล็กน้อย
ถ้าคุณเป็นแฟนหนัง MCU: ไปดูเถอะ มีหลายฉากที่เชื่อมโยงกับจักรวาลในอนาคต
ถ้าคุณหวังหนังที่เข้มข้นเหมือน The Winter Soldier: อาจไม่สมหวังนัก
ถ้าคุณอยากดูแอ็กชันมันส์ๆ: มีฉากแอ็กชันดีๆ โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่อง
Captain America: Brave New World อาจไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดของ MCU แต่ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในยุคที่แตกต่างไปจากเดิม