
เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ (2023) ความสนุกของรายการคือความเรียล จนยอดวิวต่อตอนพุ่งถึงหลักแสน และบางตอนปาเข้าไป
5 ล้านวิว เป็นเวลากว่า 2 ปีที่เซียนหรั่งและผองเพื่อนสร้างชื่อเสียงในทุกหัวเมืองของโลกออนไลน์ จนนำมาสู่ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของโน่ โดยเขาเขียนบท กำกับ แสดง และตัดต่อ (ใช่ ทำทั้งหมดนี้ในหนังเรื่องเดียว) ขณะเดียวกัน
ภาพยนตร์เรื่องที่ว่านี้ก็เป็นการแสดงหนังครั้งแรกของเพื่อนๆ ในกลุ่มด้วย เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ ตอน แหล่งเพื่อนรัก
เป็นภาพยนตร์ที่โน่จงใจให้กลายเป็นจักรวาลหนังเซียนหรั่ง เล่าเรื่องราวของเพื่อนแต่ละคนเป็นตอนๆ โดยจุดประสงค์ของหนังเกิดมาเพื่อเซอร์วิสแฟนคลับ
เรื่องของภาพยนตร์ว่าด้วยเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกำลังจะตาบอด โดยมีสาเหตุมาจากการกินเหล้าขาวคักโพด และสิ่งสุดท้ายที่เพื่อนคนนั้นอยากเห็นก่อนดวงตาจะปิดสนิทคือ ทะเล กลุ่มเพื่อนเลยพยายามเฮ็ดทุกวิถีทางเพื่อพาเพื่อนรักไปถึงทะเลให้จนได้ เพราะเป็นความฝันเดียวของเขา ณ ตอนนั้น
เป็นหนังอีสานที่สร้างโดยทีมไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่ได้ผู้กำกับเรื่อง รักหนูมั้ย อย่าง ภูวเนตร สีชมภู มากำกับหนังเรื่องนี้ ตัวเรื่องก็ถือว่าสนุกเพลิดเพลินอยู่มาก แม้ส่วนตัวอาจจะไม่ได้ชอบมาก หนังว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่อยู่บ้านนอก ที่พยายามหาเงินและหาทางหาเพื่อนที่กำลังจะตาบอดไปทะเล ก่อนที่เขาจะตาบอด ซึ่งเอาจริงพอพล็อตแบบนี้ ถ้าหากเป็นหนังไทยปกติๆ
อาจจะดูค่อนข้างเชยแน่ๆ แต่พอมาเป็นหนังอีสานและบริบทที่มาแบบนี้ มันก็เลยมีความม่วน มีความบ้าๆ บอๆ มีเสน่ห์กลิ่นอายที่ให้รสชาติที่แตกต่างจากหนัง road-trip มิตรภาพอื่นๆ ทั่วไป
เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ Zian Rhung The Movie 2023 hd เต็มเรื่อง
ก่อนหน้านี้ โน่เขียนบทภาพยนตร์และกำกับภาพยนตร์เรื่อง รักหนูมั้ย หนังสนุกอบอุ่นที่ชวนคนดูตั้งคำถามกับประเด็นทางสังคม และก่อนหน้านั้น เขาเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นหนึ่งในนักแสดงของจักรวาล ไทบ้าน เป็นนักแสดงสมทบจากช่อง 7HD
และเขายังเป็นนักร้องด้วย แถมเพลง ไคแน เพลงประกอบภาพยตร์เรื่องนี้เขาก็แต่งเนื้อร้องและร้องร่วมกับ ตฤณสิษฐ์ สิริพิชญาศานต์ วงไททศมิตร ด้วย เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ เป็นภาพยนตร์ที่แฟนคลับของ วิถีชีวิตแบบมะลายยายอยาก
ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง และคุณที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณเปิดใจให้วิถีชีวิตแบบอีสานจนอยากลองสัมผัสด้วยตัวเอง ดูจบ ไม่อยากปั้นข้าวเหนียว กินลาบ ซอยจุ๊ หรือก้อยดิบ ก็ต้องมียกสักเป๊ก!
เซียนหรั่ง เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นอีสาน 8 คน ที่ใช้ชีวิตตามวิถีชาวบ้านชนบท กินเหล้า เที่ยวเล่น หาของกิน และวันหนึ่งเขาพบว่าเพื่อนในกลุ่มของเขาคนหนึ่ง (บิว) กำลังจะตาบอดในอีก 1 เดือน เพราะกินสุราขาวมากเกินไป บิวที่กำลังจะตาบอดมีความฝันอยากจะเห็นทะเลจริงๆ สักครั้งในชีวิต ก่อนจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีก บิวและเพื่อนๆ ต่างก็ไม่มีเงินมากพอ
จึงทำให้ทุกคนต้องช่วยกันหาเงิน เพื่อพาเพื่อนไปทะเลตามความฝัน และในระหว่างทางก็พบกับเรื่องราวและอุปสรรคมากมาย แล้วท้ายที่สุดต้องช่วยกันลุ้น เอาใจช่วยกลุ่มวัยรุ่นอีสานที่ไม่เคยออกจาก comfort Zone ไม่เคยออกจากหมุ่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เลย จะสามารถพาเพื่อนไปทะเลได้ตามฝันหรือไม่
ทะเลคงเป็นความฝันแรกๆ ของเด็กอีสาน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เด็กคนหนึ่งจะไปถึงตรงนั้นได้ ส่วนตาบอด ผมใส่ไปในพล็อตเพื่อให้เป็นสถานการณ์บังคับถึงภาพสุดท้ายที่ตัวละครอยากเห็นจริงๆ
ส่วนหนึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจากการถ่ายรายการกับ ดีเจภูมิ (ภูมิใจ ตั้งสง่า) ตอนนั้นพวกเรามีโอกาสไปทะเล ซึ่งเพื่อนๆ ในกลุ่มบางคนไม่เคยนั่งเครื่องบินด้วยซ้ำ แน่นอนว่าทะเลเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเขามาก ผมว่าเด็กอีสานหลายคนคงมีโมเมนต์นี้นะ โมเมนต์ที่อยากไปสัมผัสทะเลสักครั้งในชีวิต เพราะเราเกิดมากับทุ่งนาและบรรยากาศความแห้งแล้ง แหล่งน้ำที่ใหญ่ที่สุดที่เราเคยเจอก็น่าจะเป็นแค่เขื่อน
คุยบอกว่า เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ เป็นหนังแฟนเซอร์วิส เล่าที่มาของไอเดียให้ฟังหน่อย
เพราะมันต่อยอดมาจากรายการในยูทูบ (รายการ วิถีชีวิตแบบมะลายยายอยาก) เราต้องการทำหนังให้กลุ่มเป้าหมายในยูทูบของเราดู พูดง่ายๆ คือสนองความต้องการของแฟนคลับ เราอยากให้แฟนคลับรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เรากับเขาร่วมกันสร้าง ไม่อยากให้มองว่าเราสร้างเพียงคนเดียว
ซึ่งหนังเรื่องนี้เหมือนรายการในยูทูบที่มีเนื้อเรื่อง เป็นรายการที่ถ่ายด้วยกล้องอเล็กซาและเลนส์ไลก้า ไม่ใช่กล้องโกโปรเหมือนทุกที และรายการขนาดยาวที่คุณภาพสูงมากๆ ครับ
เป็นหนังภูธร เล่าวิถีชีวิตวัยรุ่นอีสานที่ไม่ได้นำเสนอภาพจำของความแห้งแล้ง และเป็นหนังตลกอบอุ่นที่มีประเด็นไม่ซ้ำซ้อน ทัชใจคน เพราะผมชอบทำหนังที่ทำให้คนเสพไม่เครียด ดูแล้วอิ่ม
ฟังดูเป็นหนังรอมคอมนะ ซึ่งหนังเรื่องแรกของคุณก็เป็นแบบนั้น แต่แทรกประเด็นสังคม
รักหนูมั้ย เป็นหนังที่เล่นกับประเด็นสังคมเรื่องการทำแท้งและประเด็นการใช้ชีวิต ซึ่งอนาคตผมก็จะกลับมาทำหนังแนวนี้นะ เพราะผมเชื่อว่าปีหน้าหรือปีถัดๆ ไป คนจะเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นเล็กๆ น้อยๆ คนจะเริ่มรู้สึก เริ่มอินกับประเด็นสังคมและให้คุณค่ากับสิ่งนี้ อีกอย่าง ผมไม่อยากให้คนมองปัญหาคนอื่นเป็นปัญหาเล็ก เพียงเพราะไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเองเจอ อยากให้มองว่าเราก็เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คุณอาจไม่ต้องให้ความสำคัญกับปัญหาคนอื่นขนาดนั้น แค่คุณอย่ามองข้ามมันก็พอ แล้วจงอย่ามองว่ามันเป็นปัญหาที่เล็กด้วยวิธีคิดของคุณ เพราะชีวิตคนอื่นมีค่า
เล่าเหตุผลของการทำงานควบ 4 ตำแหน่งในหนังเรื่องนี้ให้ฟังหน่อยเรื่องนี้ผมเขียนบท แสดง กำกับ และตัดต่อ ผมว่าความท้าทายอยู่ตรงที่การทำงานเบื้องหลังกับเบื้องหน้าไปพร้อมกัน ปกติการกำกับที่ดีที่สุดควรอยู่หน้ามอนิเตอร์ แต่ผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น
(หัวเราะ) เลยต้องควบคุมสถานการณ์ในฉากแทน พยายามตบๆ ให้อยู่ในเนื้อหาที่เราอยากได้ แล้วค่อยกลับไปดูย้อนหลังอีกทีว่าตรงตามที่อยากได้มั้ย ส่วนการตัดต่อ ผมอยากให้เหมือนกับภาพที่ผมคิดอยู่ในหัวมากที่สุด เลยลงมือทำเอง บวกกับช่วงนั้นสถานการณ์โควิด 19 ด้วย ว่างพอดี เลยให้พี่ที่เขาตัดต่อกลับบ้าน แต่ค่าตัวก็ให้เขานะครับ
โปรดิวเซอร์ เขาบอกว่าถ้าจะนั่งหลังมอฯ อย่างเดียวงั้นก็เปลี่ยนชื่อเรื่องสิ (หัวเราะ) มันเป็นเพราะชื่อหนังกับคอนเซปต์ด้วยครับ ผมก็คิดอยู่ว่าถ้ามีภาค 2 อาจเขียนให้ตัวเองตาย
ถ้าย้อนกลับไป คุณไม่ได้เรียนหรือมีความสนใจเรื่องวงการหนังมาตั้งแต่เด็กผมแทบไม่รู้จักวงการหนังหรือเบื้องหลังเลย ตอนเด็กผมอยากเป็นนักบินอวกาศ
อะไรที่ทำให้คุณหลวมตัวเข้ามาสู่วงการภาพยนตร์เพราะภาพยนตร์เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้จินตนาการและความฝันของผมเป็นจริงได้
ความจริงแล้ว ที่มาของการเกิดภาพยนตร์เรื่องนี้ มาจากกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นอีสาน (พวกเขารวมตัวอยู่ที่ศรีสะเกษ)
ที่มารวมตัวกันทำยูทูบในช่อง Thibann Channel ในรายการ เซียนหรั่ง โดยแต่ละตอนจะเล่าถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตในอีสาน
ทั้งอาหารการกิน และความเป็นอยู่ ซึ่งพวกเขาเล่าว่า การกลับไปสร้างคอนเทนต์เหล่านี้ เกิดจากความเบื่อหน่ายจากทุนนิยมส่วนหนึ่ง นำไปสู่การมีภาพยนตร์เรื่อง เซียนหรั่ง เพื่อตอบแทนแฟนๆ ที่ติดตาม ให้ได้รับอรรถรสความสนุกสนาน จากพวกเขาสมาชิกเพื่อนในช่องยูทูบที่เปลี่ยนบทมาเป็นแสดง นำโดย โน่ ภูวเนตร หรือ เซียนหรั่ง และเขายังเป็นผู้กำกับในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ผมเป็นเด็กคนหนึ่งที่ดูหนังแล้วเห็นแค่หน้าฉาก ผมเพิ่งมีความชอบวงการเบื้องหลังตอนอายุ 19 – 20 เพราะเริ่มทำงานกับ
ไทบ้าน ภาค 1 ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่ผมไม่เคยเจอ แล้วดันสนุก พอสนุกก็ลองทำ จนหลวมตัวเข้ามาเรื่อยๆ และจับพลัดจับผลู
ดูคนอื่นแล้วก็ศึกษาจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งผมมีโอกาสไปทำงานในกรุงเทพฯ และทำงานกับกลุ่มที่เป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์จริงๆ ได้เห็นวิธีการทำงานของเขา เลยเอามาปรับใช้กับตัวเอง พอมาอยู่ตรงนี้ก็เข้าใจมากขึ้น กว่าจะเป็นหนังสักเรื่องยากจริงๆ ซึ่งผมมักเจอคำถามว่าแค่ถ่ายคอนเทนต์ แค่ทำหนัง สำหรับผมไม่มีคำว่า แค่ และไม่มีงานไหนที่มันง่ายหรอก แล้วถ้าคุณตาบอดจริงๆ คุณอยากเห็นอะไรเป็นภาพสุดท้าย
ภาพสุดท้ายที่ผมจะจดจำไว้ในหัว คือ ยาย เพราะสิ่งที่ผมกลัวที่สุด คือ การลืมทุกวันนี้ผมแทบจะจำกลิ่นพ่อตัวเองไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ผมมีตู้เสื้อผ้าของพ่อที่อยู่มาเป็นสิบยี่สิบปี ผมไม่เคยแตะเลย ถ้าวันนั้นคิดถึงก็จะเปิดตู้ดมกลิ่นเสื้อผ้า เพื่อให้ผมไม่ลืม แต่กลิ่นมันก็เลือนไปเรื่อยๆ ตามเวลาจนแทบจะไม่หลงเหลือแล้ว ขนาดเสียงหัวเราะของพ่อ ผมก็แทบจะจำไม่ได้แล้วนะครับ
อีกทั้งอาจด้วยตัวละครที่เยอะมาก เลยไม่ได้ทำให้เห็นมิติที่มากกว่านั้นของแต่ละคนมากนัก แต่ก็รู้สึกว่าแต่ละคนมันมีคาแรกเตอร์ที่เด่นและชัดเจน เลยทำให้แต่ละตัวละครยังมีชีวิตชีวาและสร้างสีสันกับหนังได้ แต่นอนกนั้นหนังก็มีความขบขันสไตล์อีสาน
ประเด็นเรื่องมิตรภาพก็สามารถทำให้คนดูอิ่มอกอิ่มใจ ซึ่งชอบที่หนังมันมาแบบ “มิตรภาพแท้ไม่มีคำปลอบใจ” เราคนดูก็เลยได้เห็นไอแก๊งนี้มันด่าทอเพื่อนแบบสารพัดตลอดเวลา ซึ่งก็ตลกสะใจคนดูอย่างเราดี อีกอย่าง หนึ่งในซีนที่ยังคงอยู่ในหัวคือซีนที่บิวไปบอกแม่ว่าตาบอด ชอบมาก เป็นซีนที่เรียบง่าย แต่อบอุ่น ประทับใจ และเศร้าไปในตัว เป็นความธรรมดาที่พิเศษ (เสียดายที่อยากเห็นคสพ.แม่ลูกมากกว่านี้) และชอบตอนจบดี ทั้งตลกและงดงาม ขมวดสรุปความสัมพันธ์ได้เรียบง่ายสามัญแ แต่ก็มีหัวใจในตัว
ภาพยนตร์ : เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ (2023)
ประเภทหนัง : ตลก, ดราม่า
ผู้กำกับ : ภูวเนตร สีชมภู
ผู้เขียนบท : ภูวเนตร สีชมภู
เซียนหรั่งเดอะมูฟวี่เต็มเรื่อง